ระวัง AdBlue® นำเข้า เก่า เสื่อมสภาพ ไม่ได้มาตรฐาน

อันตรายของการใช้ AdBlue ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเสื่อมสภาพ

  • สร้างความเสียหายต่อระบบ SCR (Selective Catalytic Reduction): AdBlue ที่เสื่อมสภาพหรือไม่บริสุทธิ์ จะมีสิ่งปนเปื้อนหรือมีสัดส่วนของยูเรียที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการตกผลึกหรือตะกอนอุดตันในหัวฉีด SCR และชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) หรือเซ็นเซอร์ ซึ่งจะนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงมาก
  • ประสิทธิภาพการลดมลพิษลดลง: หน้าที่หลักของ AdBlue คือการเปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ที่เป็นอันตรายให้กลายเป็นไนโตรเจน (N₂) และไอน้ำ (H₂O) ที่ไม่เป็นอันตราย หาก AdBlue ไม่ได้คุณภาพ กระบวนการนี้จะไม่สมบูรณ์ ทำให้รถปล่อยก๊าซพิษเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ (โดยเฉพาะมาตรฐาน Euro 5 และ Euro 6)
  • เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ: การใช้ AdBlue ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ระบบควบคุมเครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ติด หรือเครื่องยนต์เข้าสู่โหมด “Limp Home” ซึ่งจำกัดความเร็วและกำลังของรถ เพื่อป้องกันความเสียหายที่รุนแรงขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงขึ้น: นอกจากการซ่อมแซมระบบ SCR แล้ว การใช้ AdBlue คุณภาพต่ำยังอาจทำให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้นบ่อยขึ้น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงขึ้นในระยะยาว

 

AdBlue ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร และควรตรวจสอบอย่างไร

AdBlue เป็นสารละลายยูเรีย 32.5% ในน้ำบริสุทธิ์ ซึ่งต้องเป็นไปตาม มาตรฐาน ISO 22241 ที่เป็นมาตรฐานสากลสำหรับผลิตภัณฑ์นี้

คุณสมบัติของ AdBlue ที่ได้มาตรฐาน:

  • ใส ไม่มีสี: AdBlue ที่ดีควรมีลักษณะใสคล้ายน้ำ ไม่มีสีขุ่นหรือมีตะกอน
  • ไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรง: AdBlue ที่สดใหม่โดยปกติจะไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นแอมโมเนียอ่อนๆ หากมีกลิ่นฉุนรุนแรงผิดปกติ คล้ายกลิ่นปลาเน่า อาจเป็นสัญญาณว่าเสื่อมสภาพแล้ว
  • ระบุวันผลิตและวันหมดอายุชัดเจน: ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุวันผลิตและวันหมดอายุที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์
  • มาจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน: เลือกซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 22241 (ในประเทศไทยมีผู้ผลิตที่ได้รับการรับรอง เช่น DasBlue

วิธีตรวจสอบเบื้องต้น:

  • ดูสีและความใส: AdBlue ที่เสื่อมสภาพอาจมีสีขุ่นขึ้น หรือมีสีเหลือง/น้ำตาล และอาจมีตะกอนหรือผลึกเกิดขึ้น
  • ดมกลิ่น: หากมีกลิ่นผิดปกติ เช่น กลิ่นฉุนรุนแรงหรือกลิ่นแอมโมเนียที่แรงกว่าปกติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้
  • ตรวจสอบวันหมดอายุ: โดยปกติ AdBlue มีอายุการเก็บรักษาประมาณ 12-18 เดือน เมื่อเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม (ไม่เกิน 25°C และพ้นจากแสงแดดโดยตรง) หากเก็บในอุณหภูมิสูงกว่า 30°C อายุการใช้งานจะลดลงเหลือไม่ถึง 12 เดือน และหากเกิน 35°C อาจอยู่ได้ไม่ถึง 6 เดือน

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ควรซื้อ AdBlue จากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โดยตรง ปั๊มน้ำมันที่ได้มาตรฐาน หรือผู้จัดจำหน่าย AdBlue ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 22241
  • เก็บรักษาอย่างเหมาะสม: เก็บ AdBlue ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและอุณหภูมิที่สูงจัดหรือต่ำจัด (AdBlue จะแข็งตัวที่อุณหภูมิต่ำกว่า -11°C)
  • ห้ามผสมสารอื่น: ห้ามผสม AdBlue กับน้ำ, น้ำมันดีเซล หรือสารเคมีอื่นๆ โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจทำลายระบบ SCR ได้

การใส่ใจในคุณภาพของ AdBlue เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพของรถยนต์ดีเซลและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครับ

Link: VDA AdBlue Licensees